เป็นที่ทราบกันดีว่า Covid-19 ถือเป็นโรคระบาคครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นทั่วโลก และถูกประกาศโดยองค์การอนามัยโลก ในขณะนี้หลายๆประเทศกำลังเผชิญและต่อสู้อย่างหนัก และออกมาตรการเพื่อป้องกันกับไวรัสครั้งนี้
เมื่อพูดถึงสุขอนามัย อย่างเช่น การล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคุณเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ การใช้แจลแอลกฮอล์ การสวมใส่หน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้าและปาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากต่อสถานการณ์ปัจจุบัน
บุคคลที่มีโรคประจำตัว อย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด หรือปัญหาทางเดินหายใจ มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการแทรกซ้อน และมีโอกาสรุนแรงมากขึ้นตามอายุ การดูแลตนเอง หรือการทำกิจกรรมบางอย่างสามารถช่วยให้ภูมิคุ้มกันของเราดีขึ้น และ สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ ซึ่งมีวิธีดังนี้
บริโภคอาหารที่ดี
อาหารถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อภูมิคุ้มกันและสุขภาพ การเลือกกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดตต่ำ และสามารถช่วยเรื่องน้ำตาลในเลือดและความดัน การบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำจ่ะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นเบาหวาน และหันไปบริโภคโปรตีนมากขึ้น ช่วยให้มีรูปร่างที่ดีขึ้น การบริโภคผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน กรดแอสคอร์บิก และวิตามินที่จำเป็นอื่นๆ เป็นประจำ อาหารหลักๆ อย่างเช่น เห็ด มะเขือเทศ พริกหวาน หรือผักใบเขียว อาทิ บร็อคโคลี่ ผักโขม ซึ่งมีส่วนช่วยให้การสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อให้ร่างกายสามารถป้องกันไวรัสได้
ทั้งนี้ สามารถบริโภคอาหารจำพวก โอเมก้า 3 และ 6 ในปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน หรือ อาหารจากธรรมชาติบางชนิด ได้แก่ ขิง มะยม ขมิ้น หรือเครื่องเทศของอินเดียบางชนิด สมุนไพรหลายชนิดก็สามารถที่จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม อาทิเช่น กระเทียม ใบกระเพรา เทียนดำ หรือจะเป็นอาหารประเภทเม็ดต่างๆ เม็ดทานตะวัน, ฟักทอง, เลมอน ซึ่งเม็ดเหล่านี้เป็นแหล่งรวมของวิตามินอี และ โปรตีน
อย่าละเลยการนอน
ระยะการนอนที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 7-8 ชั่วโมง ซึ่งจะเป็นวิธีหนึ่งที่จะเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ในขณะนอนหลับ ร่างกายและสมองจะได้รับการซ่อมแซม การขาดการนอนหลับจะทำให้ร่างกายนั้นไม่ได้รับการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไป ซึ่งจะมีผลกระทบต่อภูมิคุ้มกัน และอีกทั้งยังกระทบต่อการทำงานของวัคซีนที่ฉีดเข้าไปอีกด้วย
ดื่มน้ำเยอะๆ
การดื่มน้ำ 8-10 แก้ว ในทุกๆวัน ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายขับของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น ไม่เฉพาะแค่น้ำเปล่า สามารถดื่มน้ำผลไม้อื่นๆได้ด้วยเช่นกัน อาทิ น้ำมะพร้าว หรือ น้ำจากผลไม้ตระกูลส้ม เพื่อไล่ความร้อน
ไม่ควรมองข้ามการออกกำลังกาย
การบริโภคอาหารที่ดีควรตามด้วยการออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ การออกกำลังกายอย่างเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายขับของเสียได้ดียิ่งขึ้น ระยะเวลาของการออกกำลังกายควรอยู่ที่ประมาณ 30-45 นาที ซึ่งขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกาย การออกกายอย่างเป็นประจำสามารถเพิ่มเมแทบอลิซึม ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อภูมิคุ้มกัน